วิกฤตการณ์การเงินรอบนี้เป็นประจักษ์พยานชี้ชัดว่า ตลาดการเงินเสรีในยุคโลกาภิวัตน์ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ได้ทำงานบนฐานของความมีเหตุมีผล ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่สามารถดูแลจัดการแก้ปัญหาด้วยตัวกลไกตลาดเองได้ และเต็มไปด้วยความไร้เสถียรภาพและความไม่แน่นอน เช่นนี้แล้ว จึงจำเป็นต้องมีกลไกเชิงสถาบันเข้ามาร่วมกำกับดูแล ตรวจสอบ และจัดการตลาดการเงิน เพื่อให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเสถียรภาพ มีความรับผิดชอบ มีความยุติธรรมและลดความเสี่ยงในการเกิดวิกฤตการณ์การเงิน พูดง่ายๆ คือ ต้องมีการออกแบบระบบกำกับดูแลภาคการเงินที่ดีนั่นเอง
วิกฤตการเงิน
ผลลุกลามจากวิกฤตการณ์การเงิน (Contagion Effects)
ปรากฏการณ์ “ต้มยำกุ้ง” เมื่อปี 2540 ตอกย้ำความสำคัญของ “ผลลุกลามจากวิกฤตการณ์การเงิน” หรือที่นักเศรษฐศาสตร์ขนานนามว่า Contagion Effects ในการก่อให้เกิดวิกฤตการณ์การเงินในประเทศต่าง ๆ ทั้งในและนอกภูมิภาคได้เป็นอย่างดี หลังธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศลอยตัวค่าเงินบาท เมื่อเดือนกรกฎาคม 2540 วิกฤตการณ์การเงินได้แพร่กระจายลุกลามไปยังประเทศในเอเชียตะวันออก ไม่ว่าเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง ฯลฯ ต่อมา แม้ประเทศที่อยู่ห่างไกลอย่างรัสเซีย บราซิล ตุรกี ฯลฯ ก็ยังติดเชื้ออย่างมิอาจหลีกพ้น