“การแต่งงานมิได้พิสูจน์ความรัก ความรักจะถูกพิสูจน์หลังการแต่งงาน” – นิ้วกลม
– 1 –
คุณพ่อคุณแม่ชิงกับเอ๋ เพื่อนๆ และพี่น้องทุกท่านครับ
ผมรักเอ๋ครับ
พูดแบบนี้ธรรมดามาก เพราะทุกคนในห้องนี้ ใครๆ ก็รักเอ๋กันทั้งนั้น
นิ้วกลมเคยเขียนไว้ว่า “การพบกันเป็นความบังเอิญ การยิ้มให้กันเป็นความตั้งใจ”
จากรอยยิ้มในดวงตาคู่นั้น ในงานหนังสือวันนั้น จนถึงวันนี้ … จริงๆ ต้องพูดว่า จากรัฐประหารครั้งนั้นจนถึงรัฐประหารครั้งนี้ … ผมกับเอ๋ก็เป็นเพื่อนรักแบบเห็น “รอยแผลเป็น” ของกันและกัน มาสิบปีเต็มแล้ว
จากนิ้วกลม ผมเลยได้มีโอกาสคบหาสมาคมกับ ชิงชิง
และผมก็รักชิงชิงไปอีกคน พูดแบบนี้ใครๆ ก็พูดกันทั่ว เพราะไม่ว่าใครที่ได้รู้จัก ทุกคนต่างก็ต้องหลงรักชิงชิง
– 2 –
สิบปีของผมกับเอ๋และชิง เป็นสิบปีที่ผมได้เรียนรู้บทเรียนเรื่อง “ความรัก” หลายอย่างจากทั้งสองคน เพราะทั้งคู่ต่างเป็นผู้บ้าคลั่งความรักเป็นชีวิตและจิตวิญญาณ
เอ๋เป็นครูเรื่องความรักของผม เขามักสอนผมผ่าน “นิ้วกลม” เสมอว่า
“ความรักก็เหมือนลูกชิ้นในหม้อสุกี้ คงจะมีบางชนิดที่เราชอบเป็นพิเศษ แต่จะให้กินลูกชิ้นแบบนั้นอย่างเดียวก็เบื่อ และดีไม่ดี อาจจะเลิกชอบไปเลยก็ได้” – เฮ้ย นี่มันใช่นิ้วกลมเหรอวะ!
“คนบางคนไม่ได้เกิดมาเพื่อใช้ชีวิตร่วมกับเรา แค่เกิดมาเพื่อให้เราได้เรียนรู้กับคำว่ารัก” – อ๋อ ดอกไม้ริมทาง มันงดงามแบบนี้นี่เอง
“รักครั้งแรกมีครั้งเดียว รักแรกพบมีหลายครั้ง” – เย้ย! ยิ่งถ้าเอามาเรียงต่อกับโคว้ทต่อไป …
“ความรักเกิดขึ้นก่อนความถูกต้องหลายล้านปี” – มึงต้องการจะบอกอะไรกู!
“กับบางคน ชีวิตคือการอยู่ด้วยกันชั่วคราว เพื่อจะจดจำกันตลอดไป” – ตกลงจะมาทางนี้จริงๆ ใช่ไหม? ทีโคว้ทพวกนี้ มึงไม่เอาไปรวมในเล่ม 10 ปี นิ้วกลมบ้างละ
“บางครั้ง ความสัมพันธ์ก็เกิดขึ้นง่ายดายเหลือเกิน เพียงใจสองดวง เปิดประตูเข้าหากัน อุปสรรคอื่นก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก” – “อุปสรรคอื่น” หมายถึงแฟนมึงเหรอ?
และเมื่อ “ความสัมพันธ์” เกิดขึ้นแล้ว นิ้วกลมก็สอนว่า เก็บไว้ให้ลับ อย่าพลั้งเผลอให้ “ตัวอุปสรรค” รับรู้
“เงื่อนไขของความรักอาจไม่ได้คับแคบแค่คำว่า รักเดียวใจเดียว หากแต่อยู่ในกรอบที่กว้างกว่านั้นคือ ฉันจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจ”
ท่านผู้มีเกียรติครับ ใครว่านิ้วกลมโลกสวย!
…
นิ้วกลมสอนผมแบบนั้น ผมก็ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ใจหนึ่งก็รักนิ้วกลม ถือเอ๋เป็นอาจารย์ด้านความรัก อีกใจหนึ่งก็รักชิงชิง … รักและเป็นห่วง
แต่พอรู้จักชิงมากขึ้น ก็หมดห่วงเสียสิ้น เพราะเธอมี “พลังลาวา” อยู่ในตัว … ลองอ่าน “ความรัก” ในนิยามของชิงดูสิครับ
“ฉันให้เธอนอนข้างๆ
ปลุกเธอให้ตื่นขึ้นพร้อมกัน
จับใบหูทั้งสองของเธอ แล้วลากไปไหนมาไหนด้วยกัน
ให้เธอนั่งบนตัก
บังคับให้เธอกินขนม
ระบายสีลงบนตัวเธอ
ลากเธอลงบันได
เหวี่ยงเธอไปรอบๆ ห้อง
โยนเธอขึ้นลง
ฉันเล่นแรงๆ กับเธอเสมอ
ที่ทำทั้งหมดนั้น
เพราะเธอพิเศษกว่าคนอื่น”
กูเข้าใจพวกมึงสองคนแล้ว! มึงอยู่กันไปนี่แหล่ะ เป็นคนพิเศษของกันและกัน เป็นลูกชิ้นก้อนโปรดกันไป เหมาะกันที่สุดแล้ว!
– 3 –
เขาว่ากันว่า They are what they write.
เอ๋กับชิงบ้าความรัก ในงานเขียนของนิ้วกลมและชิงชิงจึงเต็มไปด้วยความรัก ทั้งคู่ชอบเขียนเรื่องความรักให้คนที่เขารัก นั่นคือ ญาติมิตรเพื่อนฝูง และผู้อ่านของเขา ได้อ่านและได้ “ร่วมรัก” ไปด้วยกัน (“ร่วมรัก” หมายถึง ร่วมกันสัมผัสอารมณ์รัก มิใช่คิดเป็นอื่น ส่วนอ่านแล้ว สุดท้ายใครจะได้ “ร่วมรัก” กันหรือเปล่า นี่ขึ้นกับความสามารถส่วนบุคคล เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ได้ยินมาว่า แฟนหนังสือเอ๋กับชิงได้กันไปหลายคู่)
ใช่แล้วครับ … ใครล่ะจะเป็นคน “นิยามความรัก” ทำให้เรารู้จักคุณค่าความหมายของ “ความรัก” ได้ดีเท่ากับคนที่เรารักเขา และเขาก็รักเรา
ทั้งเอ๋และชิงต่างเชื่อมั่นใน “พลังมิตรภาพ” ดังที่นิ้วกลมเคยเขียนไว้ว่า “มิตรภาพคือภาพที่มิตรช่วยกันวาดขึ้นมา”
วันนี้ ผมเป็นเพียงตัวแทน “มิตร” สหายจำนวนมากนับร้อยนับพันของทั้งสองคนที่แค่โชคดีได้ขึ้นเวที จะให้รับภารกิจใหญ่ส่งมอบความรักคนเดียวคงไม่ไหว แบกกันหลังหักพอดี เลยขอมอบ “มิตรภาพ” – ภาพที่มวลหมู่มิตรสหายร่วมกัน “นิยามความรัก” – ให้เป็นของขวัญพิเศษแด่เอ๋กับชิงในวันนี้ครับ
เชิญชมคลิป “นิยามรัก” เป็นของขวัญเซอร์ไพรส์จากเพื่อนๆ ทุกคนครับ
– 4 –
“นิยามรัก” กว่า 30 นิยาม ที่มิตรสหายทุกคนกล่าวในคลิป ล้วนเป็นผลงานเขียนของนิ้วกลมทั้งสิ้นนะครับ ดังจะเห็นได้จากสีหน้าและแววตาของผู้กล่าวแต่ละคน (ฮา)
พวกเราคิดอย่างนี้ครับ เอ๋-ชิงมอบความรักให้พวกเรามามากแล้วผ่านผลงาน ถ้อยคำ และเรื่องราวร่วมกันในชีวิตจริง ในวันแห่งความรักวันนี้ เราเลยอยากมอบความรักจากหัวใจ “เกินร้อย” คือ 101% (เอ๋เคยสอนผมให้ตอกย้ำแบรนด์ตลอดเวลา) คืนกลับให้เอ๋-ชิงบ้าง
เผื่อจะได้เข้าใจความรู้สึกของพวกเรามั่ง (ฮา)
ทั้งหมดนั้น คือ “ความรักเท่าที่(ผม)รู้” จากเอ๋และชิง
ทั้งคู่เคยพูดถึงวันแห่งความรักว่า “วันนั้นความรักจะเกิดขึ้น วันที่ฉันกับเธอค่อยๆ จางหาย กลายเป็น ‘เรา’ ”
วันนั้นของเอ๋กับชิงคงเกิดขึ้นมายาวนานเป็นสิบปีแล้ว ไม่ได้เกิดขึ้นวันนี้ วันนี้คงเป็นเพียงสัญลักษณ์ในการแบ่งปันความรักระหว่างคู่บ่าวสาวกับมวลมหาประชามิตรอย่างพวกเรา ให้เราได้ “ร่วมรัก” กับคู่บ่าวสาว ตามประสาคนที่ในใจพูดว่า “เราคือเพื่อนกัน” มากกว่า
แม้เอ๋กับชิงจะเชื่อว่า “การแต่งงานมิได้พิสูจน์ความรัก ความรักจะถูกพิสูจน์หลังการแต่งงาน” ดังที่เคยเขียนไว้ แต่ประโยคสุดท้ายนี้ ผมต้องขอเห็นต่าง
เพราะทุกคนที่รู้จักเอ๋กับชิงคงเห็นด้วยกับผมเกินร้อยว่า “ความรักของคู่นี้ไม่มีอะไรให้ต้องพิสูจน์อีกแล้ว”
ขอบคุณครับ
(ไชโย! ไชโย! ไชโย!)