สำหรับวงการศึกษาและวงการวิชาการในประเทศไทย อยากเรียกร้องไปอีกระดับหนึ่ง เพราะวงวิชาการไทยถูกครอบครองโดยเศรษฐศาสตร์กระแสหลักเช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ โดยในอนาคตตนอยากเห็น หรือหวังว่าจะมีนักเศรษฐศาสตร์แปลกๆ สำนักต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อความหลากหลาย เรารู้ว่าสังคมต้องมีความหลากหลาย ซึ่งสังคมเศรษฐศาสตร์ก็เหมือนกัน ถ้าหยุดนิ่งมีความคิดแบบเดียว สังคมนั้นก็ไร้ชีวิตชีวาและตายไปในที่สุด
เศรษฐศาสตร์กระแสหลัก
ความเรียงว่าด้วยเศรษฐศาสตร์สองกระแส
ปรากฏการณ์ในวงวิชาการเศรษฐศาสตร์ ด้านหนึ่งนำมาซึ่งความมหัศจรรย์ใจและความน่าตื่นเต้นที่นักเศรษฐศาสตร์สามารถนำระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ที่มีแบบแผนชัดเจน มีความเป็นสากล สามารถทดสอบข้อมูลจากประจักษ์พยานข้อเท็จจริง สร้างทฤษฎี และทำนายผลในอนาคตได้ มาใช้อธิบายพฤติกรรมของคน บริษัท หรือสังคม ที่มีชีวิต มีวัฒนธรรม มีค่านิยม เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง และมีความสลับซับซ้อน อย่างเป็นที่ยอมรับในวงวิชาการ
แต่หากเรามองอีกด้านหนึ่ง ระดับความเป็นวิทยาศาสตร์ที่สูงขึ้นมิใช่ได้มาโดยมิต้องเสียต้นทุน หากต้องแลกมาด้วยการละเลยปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของหน่วยเศรษฐกิจ เช่น ปัจจัยทางการเมือง สังคม วัฒนธรรม หรือสถาบัน ซึ่งยากจะวัดค่าได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ (แท้ที่จริงแล้ว ตัวแปรทางเศรษฐกิจก็ใช่จะวัดค่าได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ได้อย่างน่าพอใจนัก) โดยทั่วไป นักเศรษฐศาสตร์มักกำหนดข้อสมมติให้ตัวแปรเหล่านี้ถูกกำหนดมาอยู่แล้ว และไม่เปลี่ยนแปลง ตัวแปรทางเศรษฐกิจเท่านั้นที่ถูกให้น้ำหนักอย่างมีนัยสำคัญในการวิเคราะห์พฤติกรรมทางเศรษฐกิจ
ตัวแปรหรือปัจจัยทางการเมือง สังคม หรือสถาบัน ดูจะกลายเป็นสิ่งแปลกแยก และไร้ที่ทางมากขึ้นในวงวิชาการเศรษฐศาสตร์กระแสหลักมาตรฐาน แม้ว่าเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม เป็นสิ่งที่มิอาจแยกขาดจากกันก็ตาม
แซยิด Roemer
หากขานชื่อนักเศรษฐศาสตร์ที่ประดิษฐ์ภูมิปัญญาใหม่หรือวิธีคิดใหม่ให้แก่วงวิชาการเศรษฐศาสตร์แล้ว สำหรับผม ย่อมมีชื่อของ John Roemer อยู่ในบัญชีนั้นเป็นลำดับต้นๆ ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยกับวิธีคิด เครื่องมือ และมุมมองต่อโลกของเขาหรือไม่ ก็ยากที่จะปฏิเสธว่างานวิชาการของ Roemer มีความแปลกใหม่ เต็มไปด้วยนวัตกรรม และมี originality สูงมาก
แน่นอนว่า งานวิชาการที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ ย่อมเป็นเป้าแห่งการโต้เถียงของวงการ
Roemer เป็น Marxist แต่เป็น Marxist ที่ใช้ระเบียบวิธีวิจัยทางเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก อย่าง Rational choice model, Game theory และ Walrasian General Equilibrium theory มาอธิบาย ‘โลก’ ของ Marx เช่น ทฤษฎีว่าด้วยชนชั้น ทฤษฎีว่าด้วยการเอารัดเอาเปรียบ (Exploitation) ของนายทุนต่อแรงงาน และความไม่เท่าเทียม (Inequality) ภายในระบบทุนนิยม ฯลฯ