เด็กบ้าการเมืองรุ่นผมทุกคนต้องได้รับอิทธิพลจาก “สุทธิชัย หยุ่น” ไม่มากก็น้อย
.
ตัวผมเองก็เช่นกัน … มากด้วย
.
เราโตมากับเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ตอนนั้นเป็นช่วงวันเปิดเทอมขึ้น ม.3 เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เหตุร้ายผ่านพ้น ชีวิตและความคิดทางการเมืองของเราก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
.
ท่ามกลางหนังสือที่อ่าน รายการโทรทัศน์ที่ดู รายการวิทยุที่ฟัง (โซเชียลมีเดียคืออะไร ยังไม่มีใครรู้จัก)ในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ 2530 ยาวไปจนถึงทศวรรษ 2540 ตอนต้น เราอ่าน-ดู-ฟัง “สุทธิชัย หยุ่น” และสารพัดทีมงานเครือข่าย “เนชั่น” ของเขา พอๆ กับการเสพสื่อเครือมติชน-ผู้จัดการ-อาทิตย์-ข่าวพิเศษ-สารคดี-ว็อชด็อกยุค “มองต่างมุม” และ “ขอคิดด้วยคน” (ถ้าจินตนาการย้อนอดีตด้วยประสบการณ์ของยุคปัจจุบันอาจจะสับสนงงงวยได้)
.
ในยุคที่โทรทัศน์ยังเต็มไปด้วยรายการฮาร์ดทอล์ก ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจได้อย่างตรงไปตรงมาหน้าจอฟรีทีวี รายการ Nation News Talk และรายการวิเคราะห์ข่าวในช่วงข่าวภาคค่ำของ “สุทธิชัย หยุ่น” คือรายการโปรดของเด็กบ้าการเมืองอย่างเราๆ ยิ่งช่วงเลือกตั้ง ยิ่งสนุกสนาน
.
ช่วงนั้น ผมยังเป็นพิธีกรรายการข่าวเด็ก “จิ๋วแจ๋วเจาะโลก” อยู่ด้วย โชคดีที่ในช่วงต้นปี 2536 ทางพี่ๆ ทีมงานเปิดโอกาสให้ทำช่วงของตัวเองสั้นๆ ในรายการ ทั้งเลือกประเด็น หาข้อมูล เขียนบท และดำเนินรายการเอง ผมตั้งชื่อช่วงว่า “เจาะลึก” และใช้มันเล่นสนุกตามความสนใจของตัวเอง
.
แน่นอนว่า เด็กบ้าการเมืองในตอนนั้นก็ต้อง “เจาะลึก” เรื่องการเมือง ถ้าย้อนกลับไปดูเทป จะเห็น “จิ๋วแจ๋วเจาะโลก” ยุคหนึ่งเข้ารัฐสภาไปสัมภาษณ์ประธานรัฐสภาอย่างคุณปู่มารุต บุนนาค (ผมยังจำที่คุณมารุตเรียกผมว่า “หนูจิ๋วๆ” ได้จนถึงวันนี้) สัมภาษณ์นักการเมืองหลายพรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปจนถึงเรื่องสหรัฐอเมริกาขู่ตัดสิทธิพิเศษทางการค้าของไทย ฯลฯ
.
และแน่นอนว่า แขกรับเชิญคนหนึ่งที่ผมมุ่งมั่นตั้งใจหาเรื่องหาทางไปสัมภาษณ์ให้ได้ คือ “สุทธิชัย หยุ่น”
.
แล้วคุณสุทธิชัยก็ตอบรับ!
.
25 ปีที่แล้ว ผมจึงเดินทางไปที่ตึกเนชั่น เพื่อสัมภาษณ์ “สุทธิชัย หยุ่น” เป็นครั้งแรก ด้วยความตื่นเต้น
.
ให้เดาว่าผมสัมภาษณ์ “สุทธิชัย หยุ่น” เรื่องอะไร?
.
คำตอบคือ เรื่องวิกฤตการเมืองรัสเซียในยุคประธานาธิบดี บอริส เยลต์ซิน !!!
.
นึกกี่ทีก็อมยิ้มกับความบ้า (คำว่าเกรียนคืออะไร ยังไม่มีใครรู้จัก) ของตัวเองในวัยเด็ก แต่พอโตขึ้น ก็อดนับถือผู้ใหญ่ใจดีหลายคนในช่วงนั้นไม่ได้ ที่สนับสนุนให้ความบ้าความเกรียนของเด็ก ม.3 ต่อ ม.4 คนหนึ่งได้ถูกปลดปล่อย ได้ลองผิดลองถูก ได้ลงมือปฏิบัติ ได้ค้นหาตัวเอง จนวิวัฒน์คลี่คลายมาเป็นเราในวันนี้
.
คุณสุทธิชัยคือหนึ่งในผู้ใหญ่ใจดีในชีวิตของผมอย่างไม่ต้องสงสัย
.
หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ ขณะกำลังเก็บของกลับบ้าน ทีมงานเนชั่นก็เข้ามาส่งสาร – “คุณสุทธิชัยอยากคุยด้วย”
.
ผมเข้าไปที่ห้องคุณสุทธิชัยอีกครั้ง
.
“ปกป้องอยากจัดรายการวิทยุไหม” คุณสุทธิชัยถาม
.
แทบไม่ต้องคิด
.
“ครับ”
.
แล้วผมก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมวิทยุเนชั่นยุคต้นอย่างไม่คาดฝัน โดยจัดรายการเนชั่นจูเนียร์สุดสัปดาห์ ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10-12.00 น.
.
กับเด็กบ้า บางครั้งผู้ใหญ่ก็ต้องบ้าตามไปด้วย
.
จะมีสักกี่คนที่กล้าเปิดโอกาสให้เด็กมัธยมจัดรายการวิทยุสดๆ สองชั่วโมงเอง โดยไม่มีผู้ใหญ่ร่วมดำเนินรายการด้วยสักคน เตรียมบทเอง เลือกคนที่อยากคุยด้วยเอง และให้ทีมงานมืออาชีพเป็นไกด์คอยสนับสนุนเด็กๆ มือสมัครเล่น
.
นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสวิถีของคุณสุทธิชัย – เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้พิสูจน์ตัวเองแบบไม่เกี่ยงอายุ ถ้ากล้าลอง ก็กล้าให้ ให้เรียนรู้เอง โตเอง ด้วยประสบการณ์ตัวเองเป็นหลัก
.
ผมมั่นใจว่าคงมีคนอีกจำนวนมหาศาลที่ได้สัมผัสประสบการณ์แบบเดียวกันจาก “สุทธิชัย หยุ่น”
.
ผมจัดรายการที่เนชั่นเรดิโออยู่เป็นปี จนกระทั่งเดินทางไปเอเอฟเอสที่ฮังการี จึงหยุดจัดรายการ ในช่วงนั้นมีโอกาสได้สัมภาษณ์คุณสุทธิชัยอีก 1-2 ครั้ง ไปออกรายการให้คุณสุทธิชัยสัมภาษณ์อีก 1-2 ครั้ง
.
เมื่อชีวิตเปลี่ยนวงโคจร ผมกับคุณสุทธิชัยก็แทบไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งโลกโซเชียลมีเดียต่อสายให้ได้คุยกันอีกครั้ง
.
25 ปีผ่านไป สังคมไทยเปลี่ยน วงการสื่อเปลี่ยน คุณสุทธิชัยกับผมก็เปลี่ยน
.
นัดหมายกันล่วงหน้าหลายเดือน พรุ่งนี้เราจะได้กลับมาเจอกันเสียที เมื่อคุณสุทธิชัยยินดีมาเยือน 101 เราจะมานั่งคุยกันสดๆ เรื่องการเปลี่ยนแปลงของโลก การเมืองไทย แวดวงสื่อสารมวลชน ชีวิตและความคิดของคุณสุทธิชัย ในยุคโลกป่วน ในรายการ 101 One-on-One ทาง The101.world
.
ผมจะถามคุณสุทธิชัยตรงๆ ชัดๆ หลายเรื่อง แบบที่คุณสุทธิชัยสอนไว้เมื่อ 25 ปีก่อน
.
สองทุ่มตรง พรุ่งนี้ มาช่วย “ป่วน” คุณสุทธิชัยกันครับ!