ตั้งแต่ยุค openworlds มาถึง bookscape เราพยายามจะทำหนังสือเกี่ยวกับชีวิตและความคิดของนักคิดด้านเศรษฐศาสตร์คนสำคัญๆ ในแบบที่เป็นหนังสือสกัดแก่นความคิดให้นักอ่านวงกว้างสามารถติดตามได้ไม่ยากและมีเสน่ห์อ่านสนุกตามสมควร นอกจากนั้นยังบอกเล่าบริบทแวดล้อมชีวิตและความคิดของนักคิดคนนั้นๆ ด้วย
.
จากอาดัม สมิท มาจอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ จนถึงคาร์ล มาร์กซ์ และฟรีดริช ฮาเย็ก ลำดับถัดไป bookscape ภูมิใจเสนอ “ธอร์สไตน์ เวเบลน” (Thorstein Veblen, 1857-1929) นักคิดต้นธารของสำนัก “เศรษฐศาสตร์สถาบัน” ผ่านหนังสือ “Veblen in Plain English” ของ Prof.Ken McCormick
.
https://www.cambriapress.com/pub.cfm?bid=82
.
สำหรับผม เวเบลนถือเป็นนักคิดด้านเศรษฐศาสตร์คนสำคัญไม่แพ้นักคิดที่เอ่ยชื่อข้างต้น แต่ผู้คนไม่ค่อยรู้จักเท่าที่ควร แม้แต่เหล่านักเศรษฐศาสตร์ไทย
.
ผลงานเล่มสำคัญของเขาคือ The Theory of the Leisure Class (1899) – ทฤษฎีว่าด้วยสำราญชน ซึ่งนำเสนอคำที่หลายคนรู้จักดีอย่าง conspicuous consumption หรือการบริโภคโอ้อวดเพื่อยกระดับสถานะทางสังคม
.
.
มรดกทางความคิดของเวเบลน คือการพยายามทำความเข้าใจพฤติกรรมของคน โดยสำรวจเบื้องหลังแรงจูงใจหลายรูปแบบ ตั้งแต่สัญชาตญาณ นิสัย ความเชื่อ และเหตุผล ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมทางสังคม หรือปัจจัยเชิงสถาบัน ทั้ง (1) สถาบันที่เป็นทางการและเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างกฎหมาย กฎกติกาต่างๆ และ (2) สถาบันที่ไม่เป็นทางการและไม่เป็นลายลักษณ์อักษร เช่น ค่านิยมส่วนรวม จารีต
.
คำถามที่เศรษฐศาสตร์สถาบันพยายามหาคำตอบคือ สถาบันกำหนด “โครงสร้างแรงจูงใจ” และ “วิถีคิด” ในการตีความ-รับรู้-ตัดสินคุณค่าของโครงสร้างแรงจูงใจอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกำหนด “พฤติกรรม” ของคน เมื่อสถาบันเปลี่ยน พฤติกรรมคนเปลี่ยน ชุดของสถาบันที่แตกต่างกันทำให้ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจแตกต่างกัน
.
“สถาบัน” ส่งผล shape “คน” และ “คน” ส่งผล shape “สถาบัน” อย่างไร
.
สำหรับเวเบลน เศรษฐกิจไม่ได้ลอยอยู่นอกโลกเหนือสังคม ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่มีพลวัต เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตามพัฒนาการด้านสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งสะท้อนผ่านวิวัฒนาการของ “สถาบัน”
.
แล้ว “สถาบัน” หนึ่ง เกิดขึ้น วิวัฒน์ มีปฏิสัมพันธ์กับสถาบันอื่น มีกระบวนการสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง มีกระบวนการเข้าครอบครองความคิดและจิตใจของผู้คนและสังคม (ผลิตซ้ำอุดมการณ์ผ่านกลไกต่างๆ) และแตกดับไปอย่างไร
.
เราจะมองเห็นความสัมพันธ์ทางอำนาจและทางวัฒนธรรมที่ซ่อนเร้นอยู่ในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างไร ในเมื่อเศรษฐกิจมิอาจแยกขาดจากการเมือง สังคมและวัฒนธรรมได้เลย
.
แนวคิดเหล่านี้คือสปิริตที่เวเบลนทิ้งไว้ให้กับการศึกษาเศรษฐกิจและเศรษฐศาสตร์แบบที่ควรจะเป็น ซึ่งหล่นหายไปบนเส้นทางการพัฒนาเศรษฐกิจและเศรษฐศาสตร์แบบกระแสหลักในช่วงศตวรรษที่ 20 ต่อด้วย 21
.
กลับมาอ่านเวเบลนกันอีกครั้งในโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนอาจจะทำให้เราเห็นอะไรชัดขึ้น และช่วยให้เราตั้งโจทย์ในการมองสังคมเศรษฐกิจได้สนุกขึ้น ลึกขึ้น คมขึ้น และกลมขึ้น
.
โปรดติดตาม.