“ผมเป็นคนมีแพสชั่นสูง ถึงทุกวันนี้ระดับความอยากให้สังคมดีขึ้น ไม่เคยลดลง และการทำความเข้าใจกลไกที่เป็นอยู่ ไม่ใช่เพื่อยอมรับมัน แต่เพื่อเปลี่ยนแปลงมัน สำหรับผม หน้าที่ของนักวิชาการไม่ใช่แค่อธิบายสังคม เข้าใจมันแล้วจบ แต่ต้องมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงสังคม บทบาทของนักวิชาการไม่ใช่อยู่บนหอคอยงาช้าง แล้วคอยผลิตคำอธิบาย แต่มันต้องมีระดับของความเป็นนักปฏิวัติซ่อนอยู่ด้วย เพียงแต่ว่าการเปลี่ยนแปลงสังคมทำได้หลายวิธี”
บทสัมภาษณ์
จากจิ๋วแจ๋ว (กว่าจะ) ถึงท่าพระจันทร์ ‘ผมไม่อยากเป็นนักวิชาการมั่วๆ’
“ความตั้งใจวันนี้จึงอยู่บนพื้นฐานว่า การแก้ไขปัญหาของประเทศชาติไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมืองอย่างเดียว ต้องอยู่ที่ทุกคนด้วย และคิดว่าอาชีพอาจารย์ก็เป็นอาชีพที่มีอิสระสูงและได้เรียนรู้ตลอดเวลา ได้สังสรรค์ทางความคิดกับคนรุ่นใหม่ ทำยังไงจะให้นักศึกษาฉุกคิดได้ว่า ประเทศนี้มีปัญหาใหญ่กว่าที่คิด และเป็นปัญหาที่ซับซ้อนระดับหนึ่ง การกระตุ้นให้นักศึกษาคิดและให้เขาเติบโตด้วยตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ อาชีพอาจารย์จึงมีประโยชน์มาก”
ถึงวันนี้ในวัย 25 ฝน ‘ปกป้อง’ เดินทางมาเกือบสุดปลายทางของความฝัน…ฝันที่เหลืออยู่ของเขานอกจากจะอยากมีพ็อกเกตบุ๊กรวมงานเขียนของตัวเองตามประสาคนชอบอ่านหนังสือแล้ว เขามีความใฝ่ฝันสูงสุดที่จะเป็น ‘อาจารย์’ ที่ดี
นักเศรษฐศาสตร์นอกคอก กับแนวคิดที่แตกต่าง
สำหรับวงการศึกษาและวงการวิชาการในประเทศไทย อยากเรียกร้องไปอีกระดับหนึ่ง เพราะวงวิชาการไทยถูกครอบครองโดยเศรษฐศาสตร์กระแสหลักเช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ โดยในอนาคตตนอยากเห็น หรือหวังว่าจะมีนักเศรษฐศาสตร์แปลกๆ สำนักต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อความหลากหลาย เรารู้ว่าสังคมต้องมีความหลากหลาย ซึ่งสังคมเศรษฐศาสตร์ก็เหมือนกัน ถ้าหยุดนิ่งมีความคิดแบบเดียว สังคมนั้นก็ไร้ชีวิตชีวาและตายไปในที่สุด