สำหรับวงการศึกษาและวงการวิชาการในประเทศไทย อยากเรียกร้องไปอีกระดับหนึ่ง เพราะวงวิชาการไทยถูกครอบครองโดยเศรษฐศาสตร์กระแสหลักเช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ โดยในอนาคตตนอยากเห็น หรือหวังว่าจะมีนักเศรษฐศาสตร์แปลกๆ สำนักต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อความหลากหลาย เรารู้ว่าสังคมต้องมีความหลากหลาย ซึ่งสังคมเศรษฐศาสตร์ก็เหมือนกัน ถ้าหยุดนิ่งมีความคิดแบบเดียว สังคมนั้นก็ไร้ชีวิตชีวาและตายไปในที่สุด
Author: pokpong
มองซ้ายมองขวา ตอนอวสาน
ผมกับอาจารย์ภาวิน ศิริประภานุกูล เขียนคอลัมน์ “มองซ้ายมองขวา” ในหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจมาครบหนึ่งปีเต็ม ด้วยหวังให้คอลัมน์นี้เป็นช่องทางเล็กๆ ที่ช่วยส่งเสริมวัฒนธรรม “มองซ้ายมองขวา” ให้กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมไทย
เราตั้งใจให้คอลัมน์นี้เป็นเวทีสะท้อนมุมมองเศรษฐศาสตร์สองด้านที่ “แตกต่าง” กัน โดยอาจารย์ภาวินทำหน้าที่ “มองขวา” ด้วยมุมมองเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก ส่วนผมคอย “มองซ้าย” ด้วยมุมมองเศรษฐศาสตร์ทางเลือก
แม้มองคนละด้าน คิดต่างกัน ก็ไม่เห็นต้องแตกแยก หากเคารพนับถือซึ่งกันและกันได้ เรียนรู้ แลกเปลี่ยน และวิพากษ์กันได้ด้วยเหตุผล ดังความสัมพันธ์ของเราทั้งสอง
เมื่ออาณาจักรทักษิณทำลายตัวเอง
ตลอดเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีสัญญาณหลายอย่างที่ชี้ชัดว่า อาณาจักรทักษิณกำลังเดินเครื่องทำลายตัวเอง
ปัจจัยที่น่ากลัวที่สุดที่คุกคามการอยู่รอดของอาณาจักรใดก็ตาม คือการทำลายตัวเองจากภายใน (self-destruction) หาใช่ภัยคุกคามจากภายนอก แต่อย่างใดไม่
อาณาจักรทักษิณกำลังเดินเครื่องทำลายตัวเอง โดยมีคุณทักษิณรับบทเป็นผู้ทำลายล้างด้วยตัวเอง ทั้งที่อีกภาคหนึ่งเป็นผู้สร้างอาณาจักรนี้ขึ้นมาด้วยสองมือ กระบวนการก่อร่างสร้างอาณาจักรทักษิณด้วยวิถีทางแบบทักษิณ และควบคุมบริหารจัดการมันด้วยระบบคุณค่าและมาตรฐานทางจริยธรรมแบบทักษิณ เป็นเชื้อเพลิงในการทำลายล้างที่ทรงประสิทธิภาพยิ่ง
ลิเวอร์พูลสัญชาติไทย
ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงที่นายกรัฐมนตรีใช้เงินในงบประมาณหรือเงินนอกประมาณเข้าซื้อหุ้น เพราะไม่ว่าจะใช้เงินของรัฐส่วนใด ย่อมสูญเสียโอกาสในการใช้เงินก้อนนั้นในการทำกิจกรรมอื่นที่มีประโยชน์และจำเป็นมากกว่า ต้นทุนของการซื้อทีมฟุตบอลจึงมิใช่แค่รายจ่ายที่ใช้ซื้อหุ้น หากต้องคำนึงถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสเหล่านี้ด้วย
นายกรัฐมนตรีอ้างว่า การเข้าถือหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลจะช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ผู้เขียนมองไม่เห็นความเป็นเหตุและผล และความเชื่อมโยงแม้แต่น้อยว่า การมีสโมสรฟุตบอลสัญชาติไทยอยู่ที่ต่างประเทศจะช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทยได้อย่างไร
การลงทุนครั้งนี้ใช้จำนวนเงินสูงยิ่ง ขณะที่ไม่มีหลักประกันเลยว่า คุณภาพวงการฟุตบอลไทยจะสูงขึ้นจริง ความเชื่อมโยงระหว่างความเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลต่างประเทศกับการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยเลือนรางแทบมองไม่เห็น
เมื่อประชาธิปไตยถูกลักเล็กขโมยน้อย
กกต. ทำตัวเป็นเทวดาที่มีนิ้วเพชร มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายผู้สมัคร แทนที่จะให้นิ้วเพชรนี้อยู่กับประชาชน
การแข่งขันด้านนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง จึงไม่มีความสำคัญเท่าการระมัดระวังตัว ไม่ให้ผิด “กฎศักดิ์สิทธิ์” ของกกต. การเลือกตั้งได้เพิ่มระดับของการแข่งขันกันทาง “เทคนิค” ผู้หาช่องว่างของกฎระเบียบได้เก่งกว่าคือผู้ชนะ การแข่งขันเชิงนโยบายระหว่างตัวผู้สมัครถูกลดทอนคุณค่าลง
คุณสมบัติของนักการเมืองที่ดีในปัจจุบัน จึงมิใช่เฉพาะการพูดจาปราศรัยเก่ง การขยันลงพื้นที่ หากต้องทำตัวเป็นนักสืบ เพื่อดูพฤติกรรมฝ่ายตรงข้ามว่าเพลี่ยงพล้ำต่อ “กฎศักดิ์สิทธิ์” ของกกต.ข้อใดบ้าง ที่สำคัญ ต้องมีนิสัยเป็น “เด็กขี้ฟ้อง”
Championship Manager และเรื่องเล่าว่าด้วยธุรกิจเกมคอมพิวเตอร์
CM เป็นเกมสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ผู้เล่นสวมบทผู้จัดการทีมฟุตบอล ที่ต้องบริหารทีม วางแผนการเล่น ซื้อขายนักเตะ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าทั้งในสนาม (เช่น แก้เกมยามตกเป็นรองคู่แข่งขัน) และนอกสนาม (เช่น รับมือสื่อมวลชน แก้ปัญหายามนักเตะมีปัญหาไม่พอใจยามไม่ได้ลงเตะ)
เสน่ห์ของ CM อยู่ที่การใช้ฐานข้อมูลจริงของวงการฟุตบอล ปัจจุบัน CM บรรจุข้อมูลส่วนตัว ประวัติ และความสามารถด้านต่าง ๆ โดยละเอียด ของนักเตะ ผู้จัดการทีม ผู้บริหารทีม โค้ช รวมถึง แมวมองในวงการฟุตบอลมากกว่าหนึ่งแสนคน ใน 26 ลีกทั่วโลก รวมถึงรายละเอียดกติกาของฟุตบอลลีกในแต่ละประเทศและแต่ละภูมิภาค ที่มีความแตกต่างกัน
ในยุคธุรกิจฟุตบอลเฟื่องฟู CM สามารถเติมเต็ม “ความฝัน” ของคนรักฟุตบอลที่จะบริหารทีมที่ตนรัก และทำทีมในแนวที่ตนเองพอใจ หากคุณไม่พอใจแนวทางการเล่นของ Liverpool ยุค Gerard Houllier คุณสามารถรับบทผู้จัดการทีม Liverpool เสียเองใน CM และคุมทีมหงส์แดงให้เล่นเกมรุกได้เต็มที่ดังใจต้องการ
เศรษฐศาสตร์ว่าด้วยฟุตบอล(โลก)
เมื่อคราวฟุตบอลโลกครั้งก่อนที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพในปี 1998 มีงานศึกษาโดยใช้ข้อมูลฟุตบอลโลกจำนวน 10 ครั้ง ตั้งแต่ปี 1954 ถึง 1990 งานวิจัยพบว่า การเป็นเจ้าภาพจะทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเจ้าภาพในปีถัดมาสูงขึ้นถึง 7 ใน 10 ครั้ง คำนวณโดยเฉลี่ยแล้ว เศรษฐกิจจะเติบโตขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงสองปีก่อนหน้าฟุตบอลโลก
นอกจาก “ผลจากการเป็นเจ้าภาพ” (Host Country Effect) แล้ว มีการพยายามสำรวจ “ผลจากการเป็นแชมป์” (Champion Effect) ด้วย แต่ผลอย่างหลังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน เพราะ 5 ใน 10 ครั้ง แชมเปี้ยนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น ส่วนอีกครึ่งหนึ่งลดลง แต่ถ้าประเทศไหนเป็นทั้งเจ้าภาพและทั้งแชมเปี้ยนด้วยแล้ว เช่น ประเทศอาร์เจนตินาในปี 1978 เศรษฐกิจเติบโตขึ้นจากใกล้ศูนย์เป็น 5.6% ทีเดียว
แล้วฟองสบู่ก็แตก : ITV Digital กับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลอังกฤษ
ปัจจุบัน “ฟุตบอล” เป็นสินค้าวัฒนธรรมที่ขายดีทั่วโลก
ปัจจัยสำคัญที่สร้างความนิยมให้ฟุตบอลกลายเป็น “กีฬาแห่งโลก” (Global Sport) ก็คือการถ่ายทอดทางโทรทัศน์
ความต้องการรับชมฟุตบอลของผู้บริโภคที่ขยายตัวสูงยิ่งตลอดทศวรรษที่ผ่านมาทำให้สถานีโทรทัศน์ทั่วโลกเลือกใช้การถ่ายทอดฟุตบอลเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการแย่งชิงจำนวนผู้ชมและสมาชิก ดังจะเห็นได้จากค่าลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปี 2002 และปี 2006 ที่สถานีโทรทัศน์ ITV และ BBC แห่งประเทศอังกฤษต้องจ่ายให้ Kirch Media เจ้าของลิขสิทธิ์แห่งประเทศเยอรมัน มีราคาสูงถึง 120 – 150 ล้านปอนด์ เทียบกับค่าลิขสิทธิ์ 5 ล้านปอนด์เมื่อฟุตบอลโลกปี 1998
แด่ Paul Wellstone นักการเมืองชั้นดี
วันที่ 25 ตุลาคม 2545 วงการเมืองอเมริกัน ได้สูญเสียนักการเมือง เจ้าของสมญา “บุรุษเหล็ก ผู้ทวนกระแส” … Paul Wellstone … ด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตก ก่อนหน้าการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเพียงสองสัปดาห์
Paul Wellstone เป็นสมาชิกวุฒิสภา รัฐ Minnesota สังกัดพรรค Democrat นับเป็นนักการเมืองที่มีความเป็น liberal มากที่สุดคนหนึ่งในรัฐสภาปัจจุบัน
คำว่า liberal นั้น ภาษาไทย อาจแปลว่า “เสรีนิยม” ซึ่งกินความได้ไม่ครบถ้วน เพราะ liberal นั้น มีความหมายในมิติของผู้ที่พยายามทำความเข้าใจและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น และผู้ที่สนับสนุนการ “เปลี่ยนแปลง” ทางการเมืองและสังคมอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
การเมืองนิ่งและข้อคิดสำหรับนายกรัฐมนตรี
รัฐบาลในสังคมประชาธิปไตยมีที่มาจากมติของสังคมส่วนรวม รัฐบาลได้รับมอบหมายจากประชาชนให้มาเป็น “ตัวแทน” ช่วยดูแลสังคมผ่านระบบการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีหาใช่ “เจ้าของ” ประเทศ และประเทศไทยก็มิใช่ “บริษัท” ที่นายกรัฐมนตรีนึกจะทำอะไรได้เบ็ดเสร็จตามใจฉัน แม้จะเห็นว่าทิศทางของตนเป็นประโยชน์กับสังคมโดยปราศจากผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนพวกพ้อง (ซึ่งเถียงกันได้ว่าเป็นไปได้จริงหรือไม่) ก็ตาม
หากนายกรัฐมนตรีไม่เห็นด้วยกับมติของสังคมในช่วงเวลาหนึ่งก็ต้องแลกเปลี่ยนถกเถียงกับสังคมอย่างเปิดเผย โปร่งใส หาใช่ทึกทักและมุบมิบทำตามความต้องการส่วนตนและส่วนพรรค โดยอ้างเพียงว่าประชาชนได้มอบอำนาจมาให้แล้ว

