คอร์รัปชั่นจึงเป็นปัญหาทางการเมืองเรื่องความไม่เท่าเทียมเชิงอำนาจ และความอยุติธรรมทางสังคม สาเหตุเชิงโครงสร้างของคอร์รัปชั่นมาจากโครงสร้างและระบอบการเมืองที่ผูกขาดอำนาจ ดังนั้น ในด้านหนึ่ง การร้องหาคนดีเพียงเท่านั้นไม่ช่วยแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น ต้องมองเชิงโครงสร้างและระบบโดยไปไกลกว่าเรื่องจริยธรรมส่วนบุคคล ในอีกด้านหนึ่ง คอร์รัปชั่นก็มิได้เป็นแค่ปัญหาเชิงเทคนิค มิได้มีแค่มิติทางเศรษฐศาสตร์เท่านั้น เราหวังพึ่งเทคโนแครตมาออกแบบระบบที่ดีแล้วหวังว่าปัญหาจะหมดสิ้นก็ไม่ได้เหมือนกัน แต่ต้องคำนึงถึงมิติทางการเมือง เช่น การต่อสู้เชิงวาทกรรม และความชอบธรรมเชิงอำนาจของการต่อสู้กับคอร์รัปชั่นด้วย
เศรษฐศาสตร์การเมือง
เศรษฐศาสตร์การเมืองและสถาบัน สำนักท่าพระจันทร์
รายละเอียด: รวมบทความด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองและเศรษฐศาสตร์สถาบันของคณาจารย์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผู้เขียน: ทวี หมื่นนิกร พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ สุวินัย ภรณวลัย สมบูรณ์ ศิริประชัย รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ ปัทมาวดี ซูซูกิ ชล บุนนาค อภิชาต สถิตนิรามัย ศุพฤติ ถาวรยุติการต์ ปกป้อง จันวิทย์
สำนักพิมพ์: คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ openbooks
ตีพิมพ์: ตุลาคม 2552
วิพากษ์โลกเศรษฐศาสตร์
รายละเอียด: เมื่อนักมานุษยวิทยา นักปรัชญา และนักรัฐศาสตร์ วิพากษ์โลกเศรษฐศาสตร์ ในวาระครบรอบ 60 ปี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผู้อภิปราย: ยุกติ มุกดาวิจิตร เกษม เพ็ญภินันท์ พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ พงษ์ธร วราศัย ปกป้อง จันวิทย์
สำนักพิมพ์: คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ openbooks
ตีพิมพ์: กันยายน 2552
เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจใคร
ชวนอ่านปกหน้า:
เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในระบบเศรษฐกิจแบบไหน?
สำรวจเบื้องหลังสังคมเศรษฐกิจ ในยุคทุนนิยม-โลกาภิวัตน์-เสรีนิยมใหม่
ชวนอ่านปกหลัง:
การปฏิรูปเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ
“เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในเศรษฐกิจแบบไหน … โจทย์สำคัญของเศรษฐกิจไทยคือเราจะเดินหน้าไปสู่เศรษฐกิจที่เป็นธรรม มีประสิทธิภาพ และมีความหมายต่อชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะสามัญชนคนธรรมดาได้อย่างไร” – ปกป้อง จันวิทย์
สำนักพิมพ์: อมรินทร์
พิมพ์ครั้งแรก (ครั้งเดียว): ตุลาคม 2554
อ่าน ทวี หมื่นนิกร ผ่าน “…เศรษฐศาสตร์จึงต้องเป็นเศรษฐศาสตร์การเมือง”
ชื่อของหนังสือ “…เศรษฐศาสตร์จึงต้องเป็นเศรษฐศาสตร์การเมือง” เล่มนี้ เป็นประโยคที่สะท้อนแก่นความคิดทางเศรษฐศาสตร์ของทวี หมื่นนิกร ได้อย่างดีที่สุด สำหรับผู้สนใจเศรษฐศาสตร์การเมืองในบริบทของสังคมเศรษฐกิจไทย ผลงานเขียนของทวี หมื่นนิกร เป็นงานที่มิอาจผ่านเลย
ปกป้อง จันวิทย์ เศรษฐศาสตร์นอกรั้วกระแสหลัก
จากพิธีกรรายการทีวี ‘จิ๋วแจ๋วเจาะโลก’ ผู้โด่งดังตั้งแต่วัยเยาว์ อะไรทำให้เด็กชายคนหนึ่งซึ่งใฝ่ฝันจะเป็นนักการเมืองหันเหชีวิตตัวเองสู่การเป็นนักวิชาการเศรษฐศาสตร์เต็มตัว
และไม่ใช่แต่เศรษฐศาสตร์นีโอคลาสสิกซึ่งครอบงำความคิดคนส่วนใหญ่อยู่เท่านั้น
แต่ ปกป้อง จันวิทย์ เลือกที่จะเรียนเศรษฐศาสตร์นอกกระแสหลัก ด้วยเชื่อว่ามันคือเศรษฐศาสตร์ที่แท้ ซึ่งอธิบายความเป็นไปของสังคมได้ดีกว่าเศรษฐศาสตร์นีโอคลาสสิก อันติดอยู่กับกรอบคิดว่าคนเป็นเพียงสัตว์เศรษฐกิจเท่านั้น
ความเรียงว่าด้วยเศรษฐศาสตร์สองกระแส
ปรากฏการณ์ในวงวิชาการเศรษฐศาสตร์ ด้านหนึ่งนำมาซึ่งความมหัศจรรย์ใจและความน่าตื่นเต้นที่นักเศรษฐศาสตร์สามารถนำระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ที่มีแบบแผนชัดเจน มีความเป็นสากล สามารถทดสอบข้อมูลจากประจักษ์พยานข้อเท็จจริง สร้างทฤษฎี และทำนายผลในอนาคตได้ มาใช้อธิบายพฤติกรรมของคน บริษัท หรือสังคม ที่มีชีวิต มีวัฒนธรรม มีค่านิยม เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง และมีความสลับซับซ้อน อย่างเป็นที่ยอมรับในวงวิชาการ
แต่หากเรามองอีกด้านหนึ่ง ระดับความเป็นวิทยาศาสตร์ที่สูงขึ้นมิใช่ได้มาโดยมิต้องเสียต้นทุน หากต้องแลกมาด้วยการละเลยปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของหน่วยเศรษฐกิจ เช่น ปัจจัยทางการเมือง สังคม วัฒนธรรม หรือสถาบัน ซึ่งยากจะวัดค่าได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ (แท้ที่จริงแล้ว ตัวแปรทางเศรษฐกิจก็ใช่จะวัดค่าได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ได้อย่างน่าพอใจนัก) โดยทั่วไป นักเศรษฐศาสตร์มักกำหนดข้อสมมติให้ตัวแปรเหล่านี้ถูกกำหนดมาอยู่แล้ว และไม่เปลี่ยนแปลง ตัวแปรทางเศรษฐกิจเท่านั้นที่ถูกให้น้ำหนักอย่างมีนัยสำคัญในการวิเคราะห์พฤติกรรมทางเศรษฐกิจ
ตัวแปรหรือปัจจัยทางการเมือง สังคม หรือสถาบัน ดูจะกลายเป็นสิ่งแปลกแยก และไร้ที่ทางมากขึ้นในวงวิชาการเศรษฐศาสตร์กระแสหลักมาตรฐาน แม้ว่าเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม เป็นสิ่งที่มิอาจแยกขาดจากกันก็ตาม
เรื่องของนายหมาก
เวลาเราพูดถึง Marxist ต้องเข้าใจว่ามีทั้งพวกที่เป็นนักวิชาการ นั่งศึกษาทฤษฎี Marxism แล้วพยายามตอบคำถามว่า What is? What was? และ/หรือ What will be? พวกหนึ่ง เวลาผมพูดถึงเศรษฐศาสตร์การเมืองแนวมาร์กซ์ ผมหมายถึงงานศึกษาของคนกลุ่มนี้
และมีทั้งพวกนักปฏิบัติการทางการเมือง ที่นำทฤษฎีบางส่วนไปปรับใช้ในโลกแห่งความจริง หรือผู้ที่ได้รับอิทธิพลแรงบันดาลใจจากตัวทฤษฎี แล้วคิดเปลี่ยนแปลงสังคมในรูปแบบวิธีการต่างๆ และมีภาพฝันแตกต่างกัน อีกพวกหนึ่ง กลุ่มหลังนี้พยายามตอบคำถามว่า What should be?
ตัว Karl Marx เอง ก็มีบทบาทเป็นทั้งนักวิชาการ และนักปฏิบัติการทางการเมือง สำหรับผม บทบาทที่โดดเด่นของ Marx คือบทบาทความเป็นนักวิชาการ ที่พยายามสร้างทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การเมืองขึ้นมาเพื่ออธิบาย ‘โลก’ งานศึกษาความคิดของ Marx ส่วนใหญ่ศึกษาจากงานวิชาการที่ Marx เขียนเป็นหลัก และ Marx เองก็ไม่ได้มีบทบาทในฐานะนักปฏิวัติ ผู้เปลี่ยนแปลงการปกครอง แล้วนำระบบเศรษฐกิจการเมืองในฝันในสมองของตนมาปรับใช้ในโลกแห่งความจริงแต่อย่างใด
แซยิด Roemer
หากขานชื่อนักเศรษฐศาสตร์ที่ประดิษฐ์ภูมิปัญญาใหม่หรือวิธีคิดใหม่ให้แก่วงวิชาการเศรษฐศาสตร์แล้ว สำหรับผม ย่อมมีชื่อของ John Roemer อยู่ในบัญชีนั้นเป็นลำดับต้นๆ ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยกับวิธีคิด เครื่องมือ และมุมมองต่อโลกของเขาหรือไม่ ก็ยากที่จะปฏิเสธว่างานวิชาการของ Roemer มีความแปลกใหม่ เต็มไปด้วยนวัตกรรม และมี originality สูงมาก
แน่นอนว่า งานวิชาการที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ ย่อมเป็นเป้าแห่งการโต้เถียงของวงการ
Roemer เป็น Marxist แต่เป็น Marxist ที่ใช้ระเบียบวิธีวิจัยทางเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก อย่าง Rational choice model, Game theory และ Walrasian General Equilibrium theory มาอธิบาย ‘โลก’ ของ Marx เช่น ทฤษฎีว่าด้วยชนชั้น ทฤษฎีว่าด้วยการเอารัดเอาเปรียบ (Exploitation) ของนายทุนต่อแรงงาน และความไม่เท่าเทียม (Inequality) ภายในระบบทุนนิยม ฯลฯ